วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

แด่อาจารย์ของผม พิชิต เลี่ยมพิพัฒน์

ในวิชาไฟเบอร์กลาส คนที่ไม่รู้จัก รองศาสตราจารย์พิชิต เลี่ยมพิพัฒน์ ถือว่าเป็นผู้ที่ยังไม่เข้าถึงวิชาไฟเบอร์กลาสที่แท้จริง อาจารย์พิชิตเป็นผู้บุกเบิกวิชาความรู้เกี่ยวกับงานพลาสติกระดับต้นๆของประเทศไทย
ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้เริ่มต้น จากอาจารย์พิชิต ที่ให้ได้วิชาแก่กระผม ให้ผมได้มีเงินเลี้ยงชีพจากวิชาไฟเบอร์กลาสจนถึงทุกวันนี้
ผมขอขอบคุณอาจารย์ เเละขอยกย่องอาจารย์ พิชิต เลี่ยมพิพัฒน์ ให้เป็นบรมครูสูงสุด วิชาไฟเบอร์กลาส เเละขอให้ทุกคนที่ตั้งใจศึกษาที่จะทำไฟเบอร์กลาส ขอให้อ่านตรงนี้ก่อน เพราะจุดเริ่มต้นที่ผมได้เผยแพร่ความรู้ มาจากอาจารย์พิชิต ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับผม ขอนำเกียรติประวัติของท่าน มาแสดงไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ ให้ผู้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และรู้จักผู้บุกเบิกและเผยแพร่อาชีพไฟเบอร์กลาส มา ณ ที่นี้ด้วย
ใน30ปีที่แล้วอาจารย์พิชิต นำความรู้เรื่องไฟเบอร์กลาส มาเผยเเพร่ในงาน แฮนด์เลยอัฟ ที่ไม่มีใครรู้จัก อาจารย์พิชิต ได้เดินทางไปสอนตามที่ต่างๆ จนไฟเบอร์กลาสเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานหุ่น ร้านทำกันชน วัด อาจารย์พิชิตไม่เคยปกปิดวิชา บางคนที่ทำไฟเบอร์กลาสไม่รู้จัก อาจารย์พิชิต ก็อาจมองข้ามไป แต่ผมขอให้ท่านทราบไว้ งานแฮนด์เลย์อัฟด้วยมือที่ท่านกำลัง จุดเริ่มต้นของคนที่นำมาสอน คือ อาจารย์พิชิต หลังจากนั้นก็ไม่มีใครทุ่มเทให้กับการเผยแพร่เป็นวิทยาทาน ต่างคนต่างปกปิด กรรมวิธีการผลิตทำให้ไฟเบอร์กลาสล้าหลัง
มารู้จักอาจารย์พิชิตกันครับ

รศ.พิชิต เลี่ยมพิพัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม

รศ.พิชิต เลี่ยมพิพัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2486 ที่บ้านตลาดหนองตม ตำบลวังฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เป็นบุตรคนที่ 8ของนายซีเดี้ยน กับนางล่วน เลี่ยมพิพัฒน์ มีพี่ 7 คน คือ นายฮ่งเซียม (ถึงแก่กรรม) นางสุจิตรา ศิริเพิ่มพูนชัย นางเพ็ญนิภา สนองคุณ นางวิไล ชัยรัตน์ เด็กชายฮ่งบก(ถึงแก่กรรม) นายศักดิ์ และเด็กหญิงบุญมี เลี่ยมพิพัฒน์(ถึงแก่กรรม) มีน้อง 4 คน คือ นายสุเมธ นางสุรางค์ รักษาสัตย์ เด็กหญิงน้องน้อย (ถึงแก่กรรม) และนายสุชาติ เลี่ยมพิพัฒน์
เริ่มเข้าเรียนระดับประถมศึกษาใน พ.ศ. 2492 ที่โรงเรียนจินตง บ้านตลาดหนองตม อำเภอพรหมพิราม โดยเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่ง เมื่อ จบชั้นประถมปีที่ 4ใน พ.ศ. 2496ได้เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมปีที่ 1 ที่โรงเรียนนวลนรผล อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จบชั้นมัธยมปีที่ 3 ใน พ.ศ. 2500 แล้วเรียนต่อที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ จังหวัดพระนคร จบชั้นมัธยมปีที่ 6 (รุ่นเจ้าอาวาส) ใน พ.ศ. 2503 แล้วสามารถสอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจนจบชั้นมัธยมปีที่ 8 แผนกวิทยาศาสตร์ (รุ่น 22) ใน พ.ศ.2505 จากนั้นได้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับพระราชทานปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต(สถ.บ.) วิชาเอกออกแบบอุตสาหกรรม ใน พ.ศ.2510 และต่อมา ได้รับทุน
USOMไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ที่North Carolina State University ประเทศสหรัฐอเมริกา สำเร็จได้รับปริญญา M.P.D.(Master of Product Design) ใน พ.ศ. 2515
รองศาสตราจารย์พิชิตได้รับทุนและได้รับคัดเลือกให้ไปฝึกอบรมและศึกษาดูงานในต่างประเทศหลายแห่งคือ
พ.ศ.
2518 ได้รับทุนองค์การสหประชาชาติ ฝึกอบรมด้านการจัดการอุตสาหกรรม ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเวลา 5 เดือน
พ.ศ.
2521 ได้รับทุน APO ไปศึกษาดูงานกิจการอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ที่ประเทศฟิลิปปินส์และสาธารณรัฐไต้หวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์
พ.ศ.
2521 ได้รับทุนองค์การสหประชาชาติให้ไปฝึกอบรมและดูงานด้าน
พลาสติก ณ สถาบันพลาสติก
LKT-TGM กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นเวลา 2 เดือน
พ.ศ.
2522 ได้รับทุน APO ให้เข้าร่มสัมมนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ ณ ประเทศฮ่องกง เป็นเวลา 2 สัปดาห์
พ.ศ.
2523 ได้รับทุน APO ให้ไปฝึกอบรมเรื่อง การคบคุมคุณภาพการผลิตอุตสาหกรรมพลาสติก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 สัปดาห์
พ.ศ.
2529 ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องการจัดการศึกษาในโรงเรียน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นเวลา 1 สัปดาห์
รองศาสตราจารย์พิชิต มีประวัติการรับราชการดังนี้
พ.ศ. 2511
2526 รับราชการที่กองบริการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยดำรงตำแหน่งหัวหน้างานออกแบบผลิตภัณฑ์ ระดับ 6 เป็นตำแหน่งสุดท้าย
พ.ศ. 2527
2530 โอนไปรับราชการที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี โดยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ระดับ 7 เป็นตำแหน่งสุดท้าย
พ.ศ. 2530 โอน มารับราชการเป็นอาจารย์ที่สถาบันราชภัฎพระนคร(ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยราชภัฎ พระนคร) คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เนื่องจากไม่ชอบทำงานด้านการบริหาร แต่ชอบงานด้านการสอนมากกว่า เพราะ เห็นว่าการเป็นอาจารย์ผู้สอน เป็นงานที่อิสระและมีโอกาสที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู้พัฒนาเทคนิคการสอน ใหม่ๆ และสามารถสอนให้คนนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ด้วย โดยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อาจารย์ 3 ระดับ 8 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2530 และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ระดับ 9 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2541 จนเกษียณอายุราชการใน พ.ศ. 2546
แม้รองศาสตราจารย์พิชิตจะรับราชการเป็นอาจารย์สอนที่สถาบันราชภัฎพระนครเพียง 16 ปี แต่ด้วยความรู้และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอุตสาหกรรมพลาสติกที่สั่งสมมาจากการศึกษาในระบบ การฝึกอบรมและดูงานในต่างประเทศหลายประเทศ และจากการปฏิบัติงานที่กระทรวงอุตสาหกรรม
และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค รวม ทั้งการเป็นผู้มีความมุ่งมั่นศึกษา ค้นคว้า วิจัยและทดลองปฏิบัติจริงมาโดยตลอด และการทุ่มเทให้กับการสอนนักศึกษาในคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นผู้ที่มีผลงานด้านการสอนและผลงานด้านวิชาการโดดเด่นปรากฏมากมาย ส่งผลให้นักศึกษาแต่ละรุ่นที่เรียนกับรองศาสตราจารย์พิชิต ต่าง ได้รับความรู้และทักษะในรายวิชาที่สอนอย่างเต็มตามศักยภาพ สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือไปประกอบอาชีพจนประสบผลสำเร็จมากมาย
รองศาสตราจารย์พิชิตสอนในหมวดวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม โปรแกรมวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โปรแกรมวิชาศิลปหัตถกรรม และอื่นๆ รายวิชาที่สอนได้แก่ พลาสติกเบื้องต้น งานพลาสติก พลาสติกและไฟเบอร์กล๊าส กรรมวิธีตกแต่งผิวโลหะ งานชุบหล่อ การชุบโลหะ การชุบและการรมสีบนผิวโลหะ วัสดุและกรรมวิธีการผลิต วัสดุศาสตร์ วัสดุศาสตร์อุตสาหกรรม ออกแบบผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพลาสติก และออกแบบผลิตภัณฑ์หัตถกรรมเครื่องประดับ
นายนพดล เฮงเจริญ เลขาธิการ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้กล่าวถึงการสอนนักศึกษาของรองศาสตราจารย์พิชิตไว้ในหนังสืออนุสรณ์งานพระ ราชทานเพลิงศพรองศาสตราจารย์พิชิต เลี่ยมพิพัฒน์ ความตอนหนึ่งว่า
“…ได้ทุ่มเทการสอนแก่ลูกศิษย์ให้มีความรู้และทักษะในวิชาเรียน เกี่ยวกับอุตสาหกรรมขนาดย่อม และอุตสาหกรรมในครัวเรือน ซึ่งมีส่วนสนับสนุนนโยบายหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์(OTOP) ของรัฐบาล นับเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้เป็นครู…”
พ.ศ.
2539 รองศาสตราจารย์พิชิต ได้รับทุนวิจัยของสถาบันราชภัฎพระนครและทำวิจัยจนแล้วเสร็จ 2 เรื่องคือ
1. ศึกษาและพัฒนารูปแบบเรือไฟเบอร์กล๊าส ชนิดใช้ในสวนสนุก ซึ่งเป็นการออกแบบและพัฒนาเครื่องเล่นในสวนสาธารณะและสวนสนุกประเภทเรือ ให้เป็นเครื่องเล่นชนิดใหม่ที่มีรูปทรงสวยงามสดุดตา และเพื่อใช้เป็นตัวอย่างประกอบการเรียนการสอนนักศึกษาโปรแกรมวิชาเอกออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
2. คุณลักษณะของบัณฑิตสาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมตามความคิดเห็นของหน่วยงานผู้ใช้และผู้ผลิต เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาหลักสูตรโปรแกรม
วิชาออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ของสำนักงานสภาสถาบันราชภัฎ ซึ่งรองศาสตราจารย์พิชิตเป็นทั้งกรรมการร่างหลักสูตร กรรมการคัดเลือกนักศึกษาเข้าศึกษาต่อและอาจารย์ผู้สอนด้วย
รองศาสตราจารย์พิชิต ได้แต่งหนังสือวิชาการ รวม
11 เล่ม ซึ่งใช้เป็นหนังสือประกอบการเรียนการสอนในระดับต่างๆอย่างแพร่หลาย และใช้ในการศึกษาค้นคว้าสำหรับการประกอบอาชีพของประชาชนด้วย ได้แก่ เรื่องพลาสติก การออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พลาสติกหล่อ ไฟเบอร์กล๊าส พลาสติกแผ่นดัด เคลือบรูปพลาสติก ชุบทอง รมดำ เอฟอาร์พี พลาสติกวิศวกรรม และเครื่องประดับ หนังสือบางเล่มเป็นที่นิยมของผู้อ่านสูง จนต้องตีพิมพ์จำนวนหลายครั้ง เช่น เรื่องพลาสติก ตีพิมพ์ 16 ครั้ง เรื่องเคลือบรูปพลาสติก ตีพิมพ์ 12 ครั้ง เรื่องไฟเบอร์กล๊าส ตีพิมพ์ 9 ครั้ง เรื่องชุบทอง ตีพิมพ์ 8 ครั้ง เป็นต้น
นอกจากนี้รองศาสตราจารย์พิชิต ยังได้รับเชิญเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นวิทยากรบรรยาย และเป็นกรรมการ ในเรื่องต่างๆ ได้แก่
- เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาโครงการวิจัยชุดโครงการอัญมณีและเครื่องประดับ ของกองทุนสนับสนุนงานวิจัย(สกว.) จำนวน
4 โครงการ รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้แก่นักวิจัยทั้ง 4 โครงการ
- เป็นผู้ตรวจและประเมินผลงานทางวิชาการด้านอุตสาหกรรม ในตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ของสถาบันราชภัฎ และตำแหน่งอาจารย์
3 ของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ
- เป็นอาจารย์พิเศษสอนระดับปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- เป็นวิทยากรอบรมวิชาชีพ สาขาเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์กล๊าส การชุบทอง และการเคลือบรูป ตามคำเชิญของหน่วยงานต่างๆ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ได้รับพระราชทานคือ ประถมาภรณ์ช้างเผือก
ประถมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรพรรดิมาลา
รองศาสตราจารย์พิชิต สมรสกับนางสาวพนิดา เฮงเจริญ ใน วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2515 และไม่มีบุตร
รองศาสตราจารย์พิชิต เลี่ยมพิพัฒน์ เป็นคนที่ทำงานด้วยความตั้งใจ มีความซื่อสัตย์สุจริต รักความยุติธรรม ดูภายนอกจะเป็นคนเงียบขรึม แต่ส่วนลึกเป็นคนที่มีความโอบอ้อมอารี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับผู้ร่วมงาน ญาติพี่น้องและคนทั่วไป มีนิสัยชอบการทำบุญทำกุศลมาโดยตลอด หลังเกษียณอายุราชการจึงมุ่งสู่การปฏิบัติธรรม ได้เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานทั้ง
4 แห่ง ที่ประเทศอินเดีย เดือนมกราคม พ.ศ. 2547 ได้ไปนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และได้สร้างพระพุทธรูปถวายวัดต่างๆอีกหลายวัด จนวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2547 ได้ถูกทำร้ายร่างกายจนทำให้ถึงแก่อนิจกรรมอย่างกะทันหัน สิริอายุได้ 60 ปี 6 เดือน 17 วัน
ธเนศ ขำเกิด
ผู้เรียบเรียง


ข้อมูลอ้างอิง
1. หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ รองศาสตราจารย์พิชิต เลี่ยมพิพัฒน์ ณ เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม กรุงเทพมหานคร วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2547
2. ข้อมูลส่วนบุคคลของนายพิชิต เลี่ยมพิพัฒน์ จากสถาบันราชภัฎพระนคร พ.ศ. 2546
แด่อาจารย์ผู้สั่งสมบุญ หลับให้สบายนะครับ ผมจะสืบสานสิ่งที่ทำต่อไป เพื่อให้เมืองไทยเป็นผู้นำอุตสาหกรมพลาสติก ในการแข่งขันโลก
คาริน มังกรบูรพา